ตอนนี้ คนที่ดู แอบรักออนไลน์ แทบจะแยกเป็นสองฝั่งไปแล้ว อ่านแล้วก็มันส์ดี ระหว่าง ทีมศยา กับ ทีมพริบพราว ส่วนตัวคิดว่า สองตัวละครแสบสันต์พอกัน เรียกได้ว่า เป็นนางมารทั้งคู่ก็ว่าได้ แต่คนหนึ่งภาพที่ออก จะไปทางขาว แต่อีกคนหนึ่งออกไปทางดำ เรียก มารขาว มารดำ ก็น่าจะได้มั๊ง
ศยา เปรียบได้กับมารขาว วิชามารของมารขาวที่มีเยอะเกินพอดีจนถูกคนมองว่าเป็น มาร ก็คือ การสร้างภาพ
ศยาสร้างภาพว่าเป็นผู้หญิงเก่งในการทำงาน เรื่องรักๆใคร่ๆมันไม่ใช่ทางของเธอ ทั้งหมดทั้งมวลนี้เกิดจากปมในตอนเด็กที่ยายเคยเล่าให้บอสฟังว่า นางเคยประกวดนางงามแต่เกิดอุบัติเหตุให้อับอาย จนตั้งแต่นั้นก็ตั้งปณิธานหรือสร้างภาพว่า สายผู้หญิงเก่ง คือทางของเธอ กว่าที่นางจะก้าวมาถึงจุดนี้ นางคงได้ทำวีรกรรม ruthless กับเพื่อนร่วมงานมาบ้าง จากที่เห็นในตอนแรกๆ ที่ทำให้พนักงานคนหนึ่งต้องออก และการเป็นคนที่เคร่งเรื่องงานจนลูกน้องหวาดกลัวลนลาน นางสร้างภาพซะจนจะเป็น miss perfect อยู่แล้ว ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีคนอิจฉา และถ้ามีโอกาสจะหาจุดอ่อนของนางให้เจอ เพื่อรอดูวันที่นางล้มหรือเป๋ อย่าง พี่แสนดีที่ดูจะไม่ชอบศยาเอาซะเลย การสร้างภาพ สร้าง space ของศยาจึงเกินพอดีไปนิด มันทำให้เธอดูคล้ายกับโรบอท หรือ คนไม่มีหัวใจ มีแต่ รัน เพื่อนสนิทเท่านั้น ที่รู้ว่า ศยา ก็เป็นผู้หญิงที่อ่อนแอคนหนึ่ง คนที่ไม่กล้าเผชิญกับความผิดหวัง โดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวกับเรื่องหัวใจ
ตอนเมื่อคืน ที่ศยาเขียนบทความหลังโดนบอสสวด เราก็แอบดีใจนึกว่านางจะได้คิด เพราะแต่ละคำที่นางเขียน มันน่าจะเป็นคำถามที่ย้อนถามตัวนางเอง
การโกหกขาว ถึงแม้จะไม่มีเจตนาหลอกลวง แต่ก็คือการโกหก นางกำลังจะฝังตัวเองอยู่กับโลกที่ไม่จริง นอกจากนั้น นางก็ยังสร้างภาพให้กับคนอื่นที่อาจจะคาดหวังตามภาพที่นางสร้าง จนอาจเจอกับความผิดหวังเมื่อได้รู้จักตัวตนจริงๆของนางก็ได้ นางเขียนบทความดี๊ดี แต่ไม่เข้าสมองนางแฮะ นางคงคิดนิดนึงนะ ในเรื่องของปรานนว่ามันแทบจะไม่มีความเป็นไปได้ในความจริงเลย แต่มาเป๋เพราะยัยรันไปอ้าง เดมี่มัวร์ กินเด็ก ทำให้ศยายังคงตกหลุมพรางการสร้างภาพของตัวเองต่อไป แต่คราวนี้มีแนวโน้มจะเผยตัวจริงในไม่ช้า ก่อนจะสาย หึหึ
ในขณะที่อีกฝ่ายก็คือ พริบพราว ที่เปรียบได้กับมารดำ วิชามารของนางคือ ความตรงแรง ที่ต้องเรียกว่า ตรงแรง แทนที่จะเรียกว่าเป็น คนตรง (หลายคนมักใช้คำว่าเป็นคนตรงในทางที่ผิด) เพราะคนตรง คือคนที่พูดความจริง คนจริงใจ แต่ แต่ แต่ รู้ว่าควรพูดเมื่อไหร่ ส่วนคนตรงแรง คือคนที่คิดจะพูดก็พูดถือว่าตัวเองเป็นคนจริงใจแต่ลืมไปว่า คำพูดหรือความจริงมันอาจจะทำร้ายความรู้สึกของคนฟัง พูดง่ายๆ คนตรงแรง คือคนพูดไม่คิด คนแบบนี้จะว่าน่าคบก็น่าคบ เพราะดูง่าย ไม่มีลับลมคมใน จะว่าไม่น่าคบก็ไม่น่าคบ เพราะไม่รู้ว่าวันไหนจะถึงคราวซวยของเราที่นางจะพูดความจริงมาทำร้ายจิตใจกัน บางคนก็อาจจะคิดว่า คุณสมบัติข้อนี้มันก็เป็นข้อเสียที่น้อย แต่จริงๆถ้ามองลึกๆ อะไรคือทำให้เป็นคนตรงแรงล่ะ ถ้าไม่ใช่เป็นคนที่ไม่รู้จักผ่อนปรน ไม่รู้จักอะลุ้มอล่วย มากๆเข้าก็จะเป็นคนที่ถือความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ จนมักจะหาความชอบธรรมให้กับการกระทำของตนเองเสมอ
ทั้งศยาและพริบพราว ก็ไม่ผิดที่จะเป็นคนสองประเภทนี้ แต่ถ้าจะลดดีกรีลงมาหน่อย ก็คงจะสร้างมิตรได้มากกว่านี้
คนที่ถือหางแต่ละฝั่ง ก็แล้วแต่ว่าถูกจริตกับฝั่งใดมากกว่า แต่เราก็ไม่รู้ว่ามันเป็น เรื่องของ ยุค หรือ อายุนะ ที่มีผลต่อตัดสินใจของคนที่ดูละครเรื่องนี้
เพราะถ้ามองตามยุค คนยุคก่อนก็คงจะนิยมคนสร้างภาพ นิยมดาราที่ภาพลักษณ์ดี แต่คนยุคใหม่ จะเห็นว่า ดาราคนไหน ตรงๆแรงๆ กลับเป็นที่นิยม
หรือมันอาจจะเกี่ยวพันกับอายุก็ได้ ตอนเราเป็นเด็กๆวัยรุ่น เราก็ชอบอะไรที่ตรงไปตรงมา การโกหกมันบาป ไม่ดี แต่พอเราโตขึ้น ประสบการณ์ชีวิตก็สอนให้เรียนรู้ว่า บางครั้ง เราก็ต้องโกหกเพื่อสร้างภาพบ้าง
อะไรที่มันตรงกลาง คงจะดีเป็นที่สุด ว่าแล้วก็ไปถือหาง #บอส ต่อ
คนสร้างภาพ vs. คนตรงแรง (ข้อคิดจาก อรอล.)
ศยา เปรียบได้กับมารขาว วิชามารของมารขาวที่มีเยอะเกินพอดีจนถูกคนมองว่าเป็น มาร ก็คือ การสร้างภาพ
ศยาสร้างภาพว่าเป็นผู้หญิงเก่งในการทำงาน เรื่องรักๆใคร่ๆมันไม่ใช่ทางของเธอ ทั้งหมดทั้งมวลนี้เกิดจากปมในตอนเด็กที่ยายเคยเล่าให้บอสฟังว่า นางเคยประกวดนางงามแต่เกิดอุบัติเหตุให้อับอาย จนตั้งแต่นั้นก็ตั้งปณิธานหรือสร้างภาพว่า สายผู้หญิงเก่ง คือทางของเธอ กว่าที่นางจะก้าวมาถึงจุดนี้ นางคงได้ทำวีรกรรม ruthless กับเพื่อนร่วมงานมาบ้าง จากที่เห็นในตอนแรกๆ ที่ทำให้พนักงานคนหนึ่งต้องออก และการเป็นคนที่เคร่งเรื่องงานจนลูกน้องหวาดกลัวลนลาน นางสร้างภาพซะจนจะเป็น miss perfect อยู่แล้ว ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีคนอิจฉา และถ้ามีโอกาสจะหาจุดอ่อนของนางให้เจอ เพื่อรอดูวันที่นางล้มหรือเป๋ อย่าง พี่แสนดีที่ดูจะไม่ชอบศยาเอาซะเลย การสร้างภาพ สร้าง space ของศยาจึงเกินพอดีไปนิด มันทำให้เธอดูคล้ายกับโรบอท หรือ คนไม่มีหัวใจ มีแต่ รัน เพื่อนสนิทเท่านั้น ที่รู้ว่า ศยา ก็เป็นผู้หญิงที่อ่อนแอคนหนึ่ง คนที่ไม่กล้าเผชิญกับความผิดหวัง โดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวกับเรื่องหัวใจ
ตอนเมื่อคืน ที่ศยาเขียนบทความหลังโดนบอสสวด เราก็แอบดีใจนึกว่านางจะได้คิด เพราะแต่ละคำที่นางเขียน มันน่าจะเป็นคำถามที่ย้อนถามตัวนางเอง
การโกหกขาว ถึงแม้จะไม่มีเจตนาหลอกลวง แต่ก็คือการโกหก นางกำลังจะฝังตัวเองอยู่กับโลกที่ไม่จริง นอกจากนั้น นางก็ยังสร้างภาพให้กับคนอื่นที่อาจจะคาดหวังตามภาพที่นางสร้าง จนอาจเจอกับความผิดหวังเมื่อได้รู้จักตัวตนจริงๆของนางก็ได้ นางเขียนบทความดี๊ดี แต่ไม่เข้าสมองนางแฮะ นางคงคิดนิดนึงนะ ในเรื่องของปรานนว่ามันแทบจะไม่มีความเป็นไปได้ในความจริงเลย แต่มาเป๋เพราะยัยรันไปอ้าง เดมี่มัวร์ กินเด็ก ทำให้ศยายังคงตกหลุมพรางการสร้างภาพของตัวเองต่อไป แต่คราวนี้มีแนวโน้มจะเผยตัวจริงในไม่ช้า ก่อนจะสาย หึหึ
ในขณะที่อีกฝ่ายก็คือ พริบพราว ที่เปรียบได้กับมารดำ วิชามารของนางคือ ความตรงแรง ที่ต้องเรียกว่า ตรงแรง แทนที่จะเรียกว่าเป็น คนตรง (หลายคนมักใช้คำว่าเป็นคนตรงในทางที่ผิด) เพราะคนตรง คือคนที่พูดความจริง คนจริงใจ แต่ แต่ แต่ รู้ว่าควรพูดเมื่อไหร่ ส่วนคนตรงแรง คือคนที่คิดจะพูดก็พูดถือว่าตัวเองเป็นคนจริงใจแต่ลืมไปว่า คำพูดหรือความจริงมันอาจจะทำร้ายความรู้สึกของคนฟัง พูดง่ายๆ คนตรงแรง คือคนพูดไม่คิด คนแบบนี้จะว่าน่าคบก็น่าคบ เพราะดูง่าย ไม่มีลับลมคมใน จะว่าไม่น่าคบก็ไม่น่าคบ เพราะไม่รู้ว่าวันไหนจะถึงคราวซวยของเราที่นางจะพูดความจริงมาทำร้ายจิตใจกัน บางคนก็อาจจะคิดว่า คุณสมบัติข้อนี้มันก็เป็นข้อเสียที่น้อย แต่จริงๆถ้ามองลึกๆ อะไรคือทำให้เป็นคนตรงแรงล่ะ ถ้าไม่ใช่เป็นคนที่ไม่รู้จักผ่อนปรน ไม่รู้จักอะลุ้มอล่วย มากๆเข้าก็จะเป็นคนที่ถือความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ จนมักจะหาความชอบธรรมให้กับการกระทำของตนเองเสมอ
ทั้งศยาและพริบพราว ก็ไม่ผิดที่จะเป็นคนสองประเภทนี้ แต่ถ้าจะลดดีกรีลงมาหน่อย ก็คงจะสร้างมิตรได้มากกว่านี้
คนที่ถือหางแต่ละฝั่ง ก็แล้วแต่ว่าถูกจริตกับฝั่งใดมากกว่า แต่เราก็ไม่รู้ว่ามันเป็น เรื่องของ ยุค หรือ อายุนะ ที่มีผลต่อตัดสินใจของคนที่ดูละครเรื่องนี้
เพราะถ้ามองตามยุค คนยุคก่อนก็คงจะนิยมคนสร้างภาพ นิยมดาราที่ภาพลักษณ์ดี แต่คนยุคใหม่ จะเห็นว่า ดาราคนไหน ตรงๆแรงๆ กลับเป็นที่นิยม
หรือมันอาจจะเกี่ยวพันกับอายุก็ได้ ตอนเราเป็นเด็กๆวัยรุ่น เราก็ชอบอะไรที่ตรงไปตรงมา การโกหกมันบาป ไม่ดี แต่พอเราโตขึ้น ประสบการณ์ชีวิตก็สอนให้เรียนรู้ว่า บางครั้ง เราก็ต้องโกหกเพื่อสร้างภาพบ้าง
อะไรที่มันตรงกลาง คงจะดีเป็นที่สุด ว่าแล้วก็ไปถือหาง #บอส ต่อ